Bollinger วง Oscillator

Bollinger Bands and Stochastic Trading System. Thu, 07 28 2011 - 12 47. Bollinger Bands สามารถใชไดพรอมกับ Stochastic Oscillator เพื่อสรางสัญญาณที่น่าสนใจมากซึ่งมีความถูกตองมากโดยใชตัวชี้วัดสองตัวเพื่อยืนยันการทํารายการทางการคา win rate วิธีการซื้อขายระบบนี้ใช้แถบด้านล่างของแถบด้านบนเพื่อวัดตำแหน่งของราคาเมื่อราคาอยู่ใกล้กับระดับล่างเป็นสัญญาณว่าราคาอยู่ใกล้ระดับการสนับสนุนและอาจจะขึ้นไปได้เมื่อราคาอยู่ใกล้ หากราคาแตะแถบล่างและ Stochastic Index จะข้ามเส้นสัญญาณขึ้นไป Short Trade เมื่อราคาแตะที่เส้นบนและ Stochastic Index ทะลุสัญญาณเส้นค่าเฉลี่ย ลงมาสัญญาณ Stronger Long Signal เมื่อราคาแตะแนวกลางแถบกลางมีแนวโน้มสูงขึ้น Stochastic Index ทะลุสัญญาณขึ้นมาสัญญาณ Strong Signal เมื่อราคาแตะที่เส้นตรงกลาง b และแนวรับกลางมีแนวโน้มลดลง Stochastic Index ทะลุแนวเส้นสัญญาณลงไปข้อดีของสัญญาณที่แข็งแกร่งคือราคาพลิกกลับมาที่แนวรับกลางซึ่งเป็น 20-SMA และเป็นสัญญาณ retracement ที่แข็งแกร่งเราจะเข้าสู่เครื่องหมายนี้แม้ว่า ราคาไม่ได้แตะแถบกลางหรือใกล้เข้ามาแล้วเด้งกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามพลังของระบบอยู่ในความเป็นจริงว่าจะเข้าสู่ทั้งสัญญาณแนวโน้มและระยะดังนั้นแม้ว่าแนวโน้มจะหยุดทำงานคุณยังคงสามารถเข้าสู่ธุรกิจการค้าได้ และสร้างผลกำไรจากตลาดสัญญาณสองตัวแรกสำหรับตลาดตั้งแต่เริ่มต้นดังนั้นเราจึงป้อนที่ขอบเขตล่างและด้านบนของช่วงและสัญญาณหลังเป็นตลาดที่มีแนวโน้มโดยการใช้พวกเขาเราสามารถเข้าร่วมตลาดที่จุดทางยุทธวิธีก่อนแนวโน้ม ยังคงแข็งแกร่งและได้รับผลกำไรสูงขาดทุนจากสต๊อตเราแนะนำให้วางการหยุดขาดทุนที่ระดับต่ำสุดสำหรับธุรกิจค้าระยะยาวและการซื้อขายที่ระดับสูงสำหรับการซื้อขายระยะสั้นซึ่งหมายความว่าสำหรับธุรกิจการค้าระยะยาว ต่ำสุดต่ำสุดของ 4 แท่งสุดท้ายและสำหรับธุรกิจค้าขายระยะสั้นจะทำให้ยอดขาดทุนสะสม 2 จุดสูงกว่าสูงสุด 4 แท่งสุดท้ายวิธีนี้จะช่วยให้ความเสี่ยงของคุณต่ำสุดและช่วยให้ Risk Reward ratio ของคุณสูงขึ้นแถบผู้มีบรรดาศักดิ์ก่อนอ่านบทนี้คุณ ควรจะอ่านก่อนหน้านี้แถบ Bollinger เป็นตัวบ่งชี้ oscillator ใช้ในการวัดความผันผวนของราคาช่วยให้คุณระบุได้ว่าราคาสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ล่าสุดและคาดการณ์ว่าอาจตกหรือกลับมาที่ระดับนั้น Bollinger band เป็นตัวบ่งชี้การสั่นและใช้ในการวัดว่าตลาดมีความผันผวนอย่างไรพวกเขาช่วยคุณระบุว่าราคาค่อนข้างสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยล่าสุดและคาดการณ์ว่าอาจจะสูงขึ้นหรือลดลงในระดับนี้ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายสินทรัพย์วงเล็บแสดงวงเงินที่ซื้อจนเกินไปและขายเกินวงเงินวงกลมประกอบด้วยสามวงหลักหรือเส้นวงดนตรีกลางจะแสดงค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของเส้นค่าเฉลี่ย วงกลมล่างแสดงถึงระดับราคาที่ค่อนข้างสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวล่าสุดภาพด้านล่างแสดงให้เห็นว่าวง Bollinger มีลักษณะเป็นอย่างไรในกราฟราคาส่วนใหญ่การดำเนินการด้านราคาโดยทั่วไปมีอยู่ภายในวงดนตรีและนั่นหมายความว่า สามารถใช้ในการคาดการณ์การพลิกกลับของตลาดเมื่อราคาถึงระดับบนสินทรัพย์มีการซื้อขายที่ราคาค่อนข้างสูงและถือว่าเป็นเงินที่มากเกินไปตอนนี้คุณสามารถมองหาการขายสินทรัพย์ด้วยความคาดหวังว่าราคาจะลดลงไปที่ศูนย์กลางการเคลื่อนย้าย เมื่อราคาขึ้นมาถึงจุดต่ำสุดจะเห็นว่ามีการซื้อขายเกินและมีแนวโน้มที่จะถอยกลับลงมาที่แนวรับกลางเมื่อราคาขึ้นมาถึงจุดต่ำสุดซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำเกินไปและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปกลางกลุ่มเมื่อราคาเข้าใกล้เส้นศูนย์ วงเงินที่ต่ำกว่าสินทรัพย์มีการซื้อขายในราคาที่ค่อนข้างต่ำและถือเป็น oversold ตอนนี้คุณสามารถมองหาการซื้อสินทรัพย์ตามคาดว่าราคาจะกลับไปที่ CE ntral moving average band ความระมัดระวัง แต่เพียงเพราะราคาอาจไปถึงวงบนและล่างไม่ได้หมายความว่าราคาจะย้อนกลับคุณจะต้องยืนยันเพิ่มเติมโดยใช้ตัวอย่างเช่นรูปแบบแท่งหรือตัวบ่งชี้อื่นที่ราคากำลังย้อนกลับก่อนที่คุณจะป้อน ระยะทางการค้าระหว่างวงดนตรีแถบวงกลมสามารถช่วยวัดความผันผวนของตลาดโดยพิจารณาจากระยะห่างระหว่างแถบบนและล่างช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างแถบแสดงถึงความผันผวนสูงในขณะที่พื้นที่แคบแสดงถึงความผันผวนต่ำ ดูที่กราฟด้านล่างในพื้นที่สีฟ้าที่คุณจะเห็นว่าวงบีบด้วยกันและราคาไม่ผันผวนมาก แต่เมื่อราคากลายเป็นผันผวนแสดงในพื้นที่สีเขียวเน้นและเริ่มเพิ่มขึ้นแถบ คุณสามารถฝึกฝนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในบทเรียนโดยการทำแบบฝึกหัดด้านล่างนี้ในแผนภูมิคุณจะมองหาการขายสินทรัพย์ Marke marke marke d โดย number1 แสดงให้เห็นว่าราคามีการเคลื่อนไหวขึ้นไปที่ด้านบนของแถบ Bollinger ด้านบนบ่งชี้ว่าอาจมีการซื้อเกินขีด จำกัด ผู้ค้าจะมองหาการขายสินทรัพย์ในระดับนี้โดยเน้นที่ ES2 โปรดสังเกตว่าราคาจะกลับรายการเมื่อแตะแถบ Bollinger ด้านบนหรือไม่ มองหา mentor. Matthias จากทีมงาน Tradimo Premium ของเราจะออกแบบแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับคุณซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงหลักสูตรใหม่ ๆ และการสัมมนาผ่านเว็บแบบสด ๆ ทุกเดือนรวมถึงการสนับสนุนอีเมลส่วนตัวที่มีความสำคัญการเปลี่ยนการตั้งค่า Bollinger band มีอยู่สองแบบ การตั้งค่าที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้จากแถบ Bollinger bands จะระบุจำนวนรอบและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการเปลี่ยนช่วงเวลาการตั้งค่ามาตรฐานสำหรับแถบ Bollinger คือ 20 ช่วงหรือ 20 เทียนคำแนะนำนี้หมายถึงระยะเวลาที่ใช้ตัวบ่งชี้จาก การดำเนินการด้านราคาการใช้ระยะเวลาน้อยกว่าด้วยการตั้งค่าต่ำกว่า 20 ตัวบ่งชี้จะให้สัญญาณการซื้อขายเพิ่มเติม แต่ยังเป็นค่าเท็จมากขึ้นด้วยการตั้งค่าที่สูงกว่า 2 0 จะทำให้เกิดสัญญาณการซื้อขายที่ผิดพลาดน้อยลง แต่คุณอาจพลาดโอกาสในการทำกำไรโดยใช้ช่วงเวลาที่น้อยลงทำให้เกิดปฏิกิริยาได้มากขึ้นและส่งผลให้วงดนตรีบนและล่างลดลงบ่อยๆทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสในการซื้อขายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสัญญาณการซื้อขายที่ผิดพลาดมากขึ้นในแผนภูมิด้านล่างตัวบ่งชี้มีการตั้งค่าเป็น 10 คุณสามารถเห็นราคาที่หักแถบบนและล่างได้บ่อยขึ้นการใช้ช่วงเวลามากขึ้นการตั้งค่าจำนวนงวดที่มากขึ้นจะทำให้เกิดปฏิกิริยาน้อยลง และส่งผลให้เส้นเรียบขึ้นราคาแบ่งแถบบนและล่างให้น้อยลงโดยให้สัญญาณน้อยลง แต่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นภาพต่อไปนี้แสดงการตั้งค่า 40 ครั้งเป็นสองเท่าของการตั้งค่ามาตรฐาน 20 งวดสังเกตว่ามีการเปรียบเทียบแถบด้านนอกเท่าไร ไปที่กราฟก่อนหน้าและความถี่ที่ราคาแบ่งแถบการเปลี่ยนส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการตั้งค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแถบ Bollinger คือ 2 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหมายถึงจำนวนข้อมูลจาก รูปแบบการกระจายค่าเฉลี่ยของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะถูกรวมอยู่ในแถบการเพิ่มค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจะเพิ่มระยะห่างของแถบจากเส้นกึ่งกลางและมีการดำเนินการด้านราคามากขึ้นในตัวดังนั้นค่าการเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1 ค่าหมายความว่า 68 การดำเนินการด้านราคาทั้งหมดมีอยู่ในวงดนตรีขณะที่การเพิ่มส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็น 2 และด้วยเหตุนี้การเพิ่มระยะห่างจากเส้นกึ่งกลางหมายความว่าการกระทำทั้งหมด 95 ราคาจะเกิดขึ้นภายในวงดนตรีการตั้งค่าจะปรากฏที่มุมบนซ้ายของแผนภูมิ และโดยทั่วไปจะแสดงเป็น 20, 2 ภายใต้การตั้งค่าเริ่มต้นการเพิ่มและเพิ่มส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานดูแผนภูมิต่อไปนี้ซึ่งค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้รับการปรับเป็น 1 9. คุณสามารถเห็นได้ว่าวงบนและล่างอยู่ในขณะนี้ ใกล้เคียงกันและราคาแบ่งแถบบ่อยขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อคุณเพิ่มส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานให้พูด 2 1 ในแผนภูมิต่อไปนี้คุณสามารถดูในแผนภูมิต่อไปนี้มากขึ้นมากเกินไป exa mple ซึ่งการตั้งค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Bollinger bands มีการตั้งค่าเป็น 2 5 และราคาจะแบ่งแถบความถี่ได้น้อยลงโดยการเพิ่มส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแถบ Bollinger คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนระดับความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งราคาจะต้องเกิดขึ้น เพราะราคาจะตัดผ่านแถบ Bollinger ที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานต่ำกว่านี้การตั้งค่าที่สูงกว่านี้อาจทำให้คุณมีสัญญาณที่เชื่อถือได้มากขึ้นในบทเรียนนี้คุณได้เรียนรู้ว่า Bollinger bands เป็นตัวบ่งชี้ oscillator ซึ่งใช้ในการวัดความผันผวนของราคา ช่วยให้คุณระบุได้ว่าราคาสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ล่าสุดและคาดการณ์เมื่อราคาอาจลดลงหรือเพิ่มขึ้นกลับไปที่ระดับนั้น ขณะที่ราคาขึ้นมาถึงระดับบนถือเป็นแนวรับและมีแนวโน้มลดลงไปที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ราคาดีดตัวขึ้นมาเหนือเส้นค่าเฉลี่ยขณะที่ราคาไต่ระดับต่อเนื่องตามเส้นค่าเฉลี่ย ช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างแถบบนและล่างแสดงถึงความผันผวนของราคาสูงพื้นที่น้อยบ่งบอกว่าต่ำ การเพิ่มระยะเวลาที่ใช้จะทำให้วง Bollinger ราบเรียบและราคาจะลดลงเป็นวงน้อยลงการลดช่วงเวลาจะทำให้วงดนตรีมีการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นและราคาจะทำให้พวกเขาบ่อยขึ้น การเพิ่มส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจะเพิ่มระยะห่างของวงดนตรีจากเส้นกึ่งกลางและราคาจะลดลงแถบน้อยลงการลดค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานจะลดระยะห่างของวงดนตรีลงไปที่แถบกลางและราคาจะทำให้พวกเขาบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำลงทะเบียนผ่านทาง Tradimo บทก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ถือหุ้น BOOAKING DOWN กลุ่มผู้ใช้ Bollinger Band กลุ่มผู้ขายสินค้าเป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากผู้ค้าหลายรายเชื่อว่าราคาหุ้นใกล้ถึงระดับที่สูงขึ้นและยิ่งใกล้ตลาดมากขึ้นเท่านั้น ราคาย้ายไปที่แถบล่าง oversold มากขึ้นตลาด John Bollinger มีชุดของ 22 กฎระเบียบที่จะปฏิบัติตามเมื่อใช้วงดนตรีเป็นระบบการค้า Squeeze บีบเป็นแนวคิดหลักของ Bollinger Bands เมื่อวงมาใกล้กัน, การหดตัวของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะเรียกว่าบีบบีบสัญญาณช่วงของความผันผวนต่ำและได้รับการพิจารณาโดยผู้ค้าจะเป็นสัญญาณที่มีศักยภาพของ volati เพิ่มขึ้นในอนาคต lity และโอกาสทางการค้าที่เป็นไปได้ในทางตรงกันข้ามการเคลื่อนที่ของวงดนตรีจะแตกต่างกันมากยิ่งขึ้นโอกาสในการลดความผันผวนและความเป็นไปได้ในการออกจากการซื้อขายอย่างไรก็ตามเงื่อนไขเหล่านี้ไม่ใช่สัญญาณการซื้อขาย เกิดขึ้นหรือที่ทิศทางราคาอาจย้าย. ประมาณ 90 ของการดำเนินการราคาเกิดขึ้นระหว่างสองวงใด breakout ด้านบนหรือด้านล่างวงดนตรีเป็นเหตุการณ์สำคัญ Breakout ไม่ได้เป็นสัญญาณซื้อขายความผิดพลาดที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาที่ตีหรือเกิน หนึ่งในวงเป็นสัญญาณที่จะซื้อหรือขาย Breakouts ให้เบาะแสไม่เป็นไปในทิศทางและขอบเขตของการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตไม่ Standalone System. Bollinger Bands ไม่ได้เป็นระบบการซื้อขายแบบสแตนด์อโลนพวกเขาเป็นเพียงตัวบ่งชี้หนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ค้ากับข้อมูล เกี่ยวกับความผันผวนของราคา John Bollinger แนะนำให้ใช้ตัวบ่งชี้สองตัวหรือสามตัวบ่งชี้ที่ไม่ใช่ความสัมพันธ์อื่น ๆ ที่ให้สัญญาณตลาดโดยตรงมากขึ้น เทคนิคบางอย่างของเขาชื่นชอบคือการเคลื่อนตัว MACD ความต่างของค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนและดัชนีความแข็งแกร่ง RSI บรรทัดล่างคือวง Bollinger Bands ได้รับการออกแบบมาเพื่อค้นหาโอกาสที่จะให้ นักลงทุนมีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จ